post-title

ครีมกันแดด จำเป็นสำหรับเด็กเล็กไหม?

     แสงแดดนั้นถือเป็นสิ่งที่อันตรายกับผิวของเราหากได้รับมากๆหรือได้รับในระยะเวลานานๆ ไม่ได้มองในแง่ของการทำให้ผิวของเรามีสีคล้ำขึ้น แต่รังสี UV ในแสงแดดทำให้เซลล์ของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้น พูดง่ายๆก็คือเซลล์แก่ไวขึ้น และยังเพิ่มโอกาสทำให้เซลล์กลายพันธ์ุอีกด้วย🧬 ซึ่งการกลายพันธ์ุนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีอวัยวะที่ผิดแผกจากมนุษย์ทั่วไปงอกขึ้นมาอย่างในภาพยนตร์ หลายครั้งการกลายพันธ์ุของเซลล์อาจเป็นการกลายพันธุ์เงียบๆ ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อร่างกายของเราเลย แต่ในบางครั้งการกลายพันธ์เหล่านั้นเป็นจุดดำเนิดของการเกิดเซลล์มะเร็งตามมา เพื่อจะป้องกันหรือลดโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงเหล่านี้ เราจึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำเมื่อต้องสัมผัสกับแสงอาทิตย์ คำถามคือ แล้วในเด็กเล็กจำเป็นต้องทาครีมกันแดดไหม🧴 สามารถทาครีมกันแดดได้หรือไม่ หากทาได้จะมีวิธีการเลือกครีมกันแดดให้เข้ากับช่วงวัยอย่างไร เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ💁‍♀️


ครีมกันแดดกับเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 เดือน

แนะนำว่าหากเจ้าตัวน้อยยังมีอายุไม่ถึง 6 เดือนหรือประมาณครึ่งขวบปี ยังไม่ควรให้ทาครีมกันแดดค่ะ เนื่องจากผิวของเด็กนั้นมีความบอบบางกว่าผู้ใหญ่มากๆ ง่ายต่อการเกิดการแพ้😷 การระคายเคือง และการดูดซึมสารเคมีเข้าสู่ผิว

ผู้ปกครองอาจหลีกเลี่ยงการให้เด็กได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นระยะเวลานานๆไปก่อน

แน่นอนว่าถึงเจ้าตัวน้อยจะยังไม่ถึงวัยที่สามารถทาครีมกันแดดได้ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดได้อยู่ดี ดังนั้นในช่วงนี้ผู้ปกครองอาจหลีกเลี่ยงการให้เด็กได้รับแสงอาทิตย์โดยตรงเป็นระยะเวลานานๆไปก่อน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว เพราะเด็กเล็กมากๆยังไม่ควรออกจากบ้านค่ะ หากมีความจำเป็นต้องพาลูกออกไปสัมผัสแสงแดด ควรเลือกแสงเช้าหรือแสงเย็นที่มีความเข้มข้นของรังสี UV หรือ อัลตร้าไวโอเลตไม่แรงมาก ยกตัวอย่างเช่นช่วงเช้าตรู่ไม่เกิน 9 นาฬิกา🕘 หรือเป็นแดดช่วงเย็นหลังช่วง 16 นาฬิกาเป็นต้นไป

หากจำเป็นต้องพาเจ้าตัวน้อยออกจากบ้านในช่วงแดดแรง ให้สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายได้มิดชิด 

แต่เสื้อผ้า👕ก็ควรระบายอากาศได้ดีให้ผิวหนังของเด็กสัมผัสกับแดดโดยตรงให้น้อยที่สุดค่ะ


 ครีมกันแดดกับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป

สำหรับเด็กในวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เจ้าตัวน้อยรู้จักทาครีมกันแดดได้แล้วค่ะ 

เพราะเป็นช่วงที่ผิวหนังของเด็กจะเริ่มแข็งแรงขึ้นแล้วอย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดนั้นสามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆตามกลไลการป้องกันรังสี UV แบบแรกคือแบบ chemical sunscreen ซึ่งอาศัยการดูดซึมของผิวหนังในการป้องกันรังสี UV สำหรับครีมกันแดดประเภทนี้จะไม่เป็นที่แนะนำทั้งต่อเด็กเองและต่อกลุ่มคนที่มีผิวแพ้ง่ายค่ะ🙅‍♀️

ครีมกันแดดกลุ่มที่ค่อนข้างปลอดภัยกับผิวของเด็กและคนที่มีผิวแพ้ง่ายจะเป็นครีมกันแดดประเภท physical sunscreen 

หรือเรียกอีกชื่อได้ว่าเป็นกลุ่ม inorganic filter ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นสารกลุ่มในกลุ่มซิงค์ออกไซด์ (zinc oxide) และไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium dioxide) ค่ะ โดยจะสังเกตได้ว่าหลังทาครีมกันแดดในกลุ่มนี้ผิวหนังจะถูกปรับให้ขาวขึ้นเล็กน้อย โดยเราจะสามารถรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้โดยการอ่านฉลากสารที่เป็นองประกอบที่ติดข้างขวดค่ะ✅

เลือกยี่ห้อที่ไม่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม DEET

สิ่งสำคัญเมื่ออ่านฉลากข้างขวดครีมกันแดดแล้ว ต้องเลือกยี่ห้อที่ไม่มีส่วนผสมของสารในกลุ่ม DEET ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาไล่แมลงค่ะ🪰

สามารถป้องกันได้ในระดับ SPF30 ขึ้นไป 

ในการเลือกครีมกันแดด ควรเลือกยี่ห้อและรุ่นที่รับประกันว่าสามารถป้องกันได้ในระดับ SPF30 ขึ้นไป☀️ ถึงจะถือว่ามีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแสงแดดในประเทศไทยที่ค่อนข้างเข้มข้นค่ะ

อาการแพ้ครีมกันแดด

✨เมื่อทาบ่อยๆ ถึงแม้เด็กจะไม่ได้มีอาการระคายเคืองในทันที แต่จะสังเกตได้ว่าเจ้าตัวน้อยมีผิวหนังที่แห้งลงเรื่อยๆ

✨เด็กมีอาการระคายเคืองหลังทาครีมกันแดดได้ไม่นาน

✨เด็กมีคุ่มผื่นขึ้นบริเวณที่มาครีมกันแดด

✨เด็กมีอาการคันบริเวณที่ทาครีมกันแดด👶

     อย่างไรก็ตาม แม้ครีมกันแดดที่คุณผู้ปกครองเลือกใช้จะเป็นครีมกันแดดในกลุ่ม physical sunscreen หรือเป็นครีมกันแดดยี่ห้องหรือรุ่นที่รับประกันว่าทำมาสำหรับเด็กแล้ว เจ้าตัวน้อยของเราก็ยังมีโอกาสที่จะแพ้อยู่ดี เนื่องจากเป็นสารที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังบางๆของเด็กโดยตรง ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่สังเกตได้ว่าลูกของเรามีอาการที่เข้าข่ายการแพ้ตามที่เรากล่าวไปข้างต้นหลังทาครีมกันแดด ก็ควรให้ลูกหยุดทาทันทีและปรึกษากับแพทย์👨‍⚕️ผิวหนังว่าสามารถใช้วิธีใดป้องกันแสดงแดดแทนได้บ้างค่ะ