post-title

รับมือยังไง? เมื่อต้องพาลูกไปที่ทำงาน

     สำหรับคุณแม่หรือคุณพ่อท่านใดที่เป็นแม่หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว แม้กระทั่งครอบครัวที่ทั้งคุณผู้หญิงคุณผู้ชายต่างต้องทำงาน👩‍💻 และไม่มีสมาชิกครอบครัวท่านใดอยู่ดูแลลูกในวัยก่อนเข้าเรียน จะจ้างพี่เลี้ยงเด็กก็ไม่สะดวกใจเท่าไหร่นัก ดังนั้นการพาลูกไปที่ทำงานบ้างก็อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แน่นอนว่าเด็กเล็ก👶มักมีความซุกซนตามธรรมชาติของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งอาจไปรบกวนการทำงานของเพื่อนร่วมงานท่านอื่นๆได้ ดังนั้นจะต้องพิจารณาประเด็นไหนก่อนพาลูกไปที่ทำงานบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ💁‍♀️


ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อต้องพาลูกไปทีทำงาน

👉ความเหมาะสมของสถานที่ทำงาน

อันดับแรกเลยก่อนจะตัดสินใจให้เจ้าตัวน้อยออกนอกสถานที่ ก็ต้องทำการประเมินและตัดสินใจก่อนว่าสถานที่นั้นเหมาะสมหรือไม่ใช่ไหมคะ ความเหมาะสมในที่นี้หมายถึงสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ทำอาชีพที่ต้องอยู่ท่ามกลางเครื่องจักร🚜 เครื่องมือเครื่องใช้ที่ต้องการความสะอาด ห้องที่ต้องใส่เสื้อผ้าป้องกันเชื้อก่อโรค👩‍🔬 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พนักงานหรือลูกจ้างห้ามพาคนนอกเข้ามาอยู่แล้ว ก็ไม่ควรให้ลูกไปด้วย🙅‍♀️ เพราะเสี่ยงให้เกิดความอันตรายแก่เจ้าตัวน้อยและแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพของผู้ปกครองเองค่ะ

👉ห้ามพาลูกไปแบบไม่บอกกล่าวเพื่อนร่วมงาน

หากประเมินแล้วว่าที่ทำงานของผู้ปกครองนั้นเหมาะสมมากพอที่จะให้ลูกเข้าไปได้ สิ่งต่อไปที่ควรทำคือการขออนุญาตเพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน👩‍💼ค่ะ ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวไปก่อนหน้าว่าเด็กมักมาพร้อมกับความซุกซนและเสียงที่ดัง🗣️อยู่แล้ว เพื่อนร่วมงานบางท่านอาจต้องการความเงียบ🤫และสมาธิในการทำงานสูง และหากเพื่อนร่วมงานไม่ยินยอมก็ไม่ควรฝืนค่ะ เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบเด็ก ลูกของเรานั้นอาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนค่ะ

👉เลือกวันที่จะพาไปให้เหมาะสม

หากเพื่อนร่วมงานให้ความยินยอม👌แล้ว อันดับต่อไปคือการเลือกวันที่จะพาลูกไปสำรวจที่ทำงาน คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกวันที่ไม่มีประชุม และเป็นวันที่งานอาจไม่หนักมาก เพราะการเข้าประชุม📋หรือการต้องสะสางงานยุ่งจะทำให้ผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลเด็ก ต้องปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง ซึ่งอาจทำให้เจ้าตัวน้อยไปรบกวนการทำงานของเพื่อนร่วมงานท่านอื่นๆได้ค่ะ

👉บอกข้อควรปฏิบัติกับลูก

แน่นอนว่าทุกสถานที่ย่อมมีกฎเกณฑ์แม้กระทั่งตอนเด็กอยู่ที่บ้านเองก็เช่นกัน หากจะพาเด็กไปนอกสถานที่ควรทำให้เด็กเข้าใจถึงข้อกำหนดของสถานที่นั้นๆ อะไรทำได้ อะไรห้ามทำ ในครอบครัวที่มีการอบรมและส่งเสริมให้ลูกปฏิบัติตามกฎระเบียบ📝ในบ้านอยู่แล้ว สำหรับข้อนี้ก็จะสบายขึ้นค่ะ เพราะเด็กจะมีพื้นฐานความเข้าใจในการทำตามกฎในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

👉มีพื้นที่ให้เด็กโดยเฉพาะ

คำว่าพื้นที่ให้เด็กนี้ไม่ได้หมายถึงมุมของเล่นหรือมุมสันทนาการค่ะ แต่หมายถึงมุมใดก็ตามที่ผู้ปกครองเห็นว่าปลอดภัย สะอาด และเป็นมุมที่จะรบกวนการทำงานของเพื่อนร่วมงานได้น้อยที่สุด ซึ่งควรเป็นมุมที่อยู่ในสายตา👀ผู้ปกครอง มีความใกล้ชิดกับผู้ปกครอง เผื่อว่าเด็กทำอะไรที่ไม่ควรทำก็จะได้ดูแลได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกไม่ดีกับทั้งตัวเด็กเองและผู้ปกครองค่ะ


ประโยชน์ของการพาลูกไปทำงานด้วย

✨เป็นการเปิดหูเปิดตาลูก 

เจ้าตัวน้อยจะมีโอกาสได้เห็นอะไรใหม่ๆ👀 ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ บรรยากาศ รวมไปถึงการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ซึ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านการเข้าสังคมให้แก่เด็กโดยตรงค่ะ

✨ฝึกให้เด็กรู้จักปรับตัว

เป็นการฝึกให้เด็กรู้จักปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบใหม่ๆ📝 แน่นอนว่าหากเปรียบเทียบข้อควรปฏิบัติระหว่างอยู่ที่บ้านกับที่ทำงาน ที่ทำงานล้วนมีกฎระเบียบที่ไม่เหมือนที่บ้านและมีความเคร่งครัดมากขึ้นอยู่แล้ว การเปลี่ยนบรรยากาศจะทำให้เด็กได้เรียนรู้ว่าแต่ละสถานที่นั้นมีแนวทางการอาศัยไม่เหมือนกัน และเติบโตเป็นคนเคารพ🫡กฎในสังคมค่ะ

✨เป็นการฝึกความอดทนกับเด็ก 

เนื่องจากเด็กต้องปฏิบัติตามกฎของที่ทำงาน ต้องอยู่เงียบๆและสงบเรียบร้อย ซึ่งค่อนข้างฝืนธรรมชาติของเด็กในวัยนั้น การกระทำเช่นนี้จะทำให้ลูกรู้ว่าเราไม่สามารถทำตามใจตนเองไปได้ทุกอย่าง ในบางครั้งต้องอดทนกับสิ่งที่ไม่ชอบหรือไม่ได้อยากทำบ้างค่ะ

     จะเห็นแล้วนะคะว่าการพาลูกออกนอกสถานที่หรือพาไปที่ทำงาน👩‍💻นั้น แม้จะดูเป็นที่ที่ไม่ได้เหมาะสมสำหรับเด็กเท่าไหร่ แต่ก็จะทำให้เด็กได้เรียนรู้อะไรมากมาย สิ่งสำคัญที่สุดคือความยินยอมจากเพื่อนร่วมงาน และคุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าสามารถควบคุมความประพฤติของเจ้าตัวน้อยให้อยู่ในกฎระเบียบได้ค่ะ