post-title

ความเสี่ยงไวรัส RSV ภัยร้ายใกล้ตัวเด็กเล็ก

แหล่งข่าวจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) เดือนตุลาคม 2022 เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) หรือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางระบบทางเดินหายใจทั่วไป กำลังเพิ่มสูงขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา


สถานการณ์การติดเชื้อ RSV

พบการติดเชื้อ RSV เพิ่มขึ้น

โดยสำนักข่าว CNN รายงาน📰ว่าจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส RSV ในกลุ่มเด็กเพิ่มขึ้นมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในสหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส🦠เพิ่มขึ้นอย่าชัดเจนทั่วสหรัฐ โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีผู้ป่วยที่พบเชื้อโรคจากการทดสอบ PCR เพิ่มมากกว่า 3 เท่า

ซึ่งโครงการเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัส RSV ของ CDC ได้ทำการรวบรวมมากจาก 75 เทศมณฑล ซึ่งคิดเป็น 9 % ของประชากรทั้งหมดในสหรัฐ🌎

RSV มีความอันตรายต่อทารกและเด็กเล็กไหม?

CDC มีการระบุว่าผู้ใหญ่ที่ติดไวรัส RSV นั้นมักจะมีอาการคล้ายโรคหวัดที่ไม่รุนแรง แต่หากทารกและเด็กเล็กติดเชื้อก็อาจเป็นอันตรายได้


ลักษณะของไวรัส RSV

ทำความรู้จักกับไวรัส RSV 🦠

RSV นั้นเป็นไวรัสที่มักจะทำให้เกิดโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กเล็ก รวมถึงมีความรุนแรงกว่าไข้หวัดทั่วไป ทำให้เด็กเล็กมีอาการหอบเหนื่อย หรือ มีภาวะปอดอักเสบ🫁ร่วมด้วยได้ โดยสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและทำให้เด็กจำนวนมากป่วยพร้อมกันได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะหายป่วยได้ใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในเด็กเล็ก👶จะมีความรุนแรงมากกว่า โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปี เด็กที่เป็นโรคหัวใจ หรือ โรคปอด หรือเด็กที่คลอดก่อนกำหนด 

อาการของโรค

ผู้ที่ติดเชื้อไวรัส RSV มักจะมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่ในเด็กเล็กจะมีอาการหลอดลมฝอยอักเสบ ทำให้มีอาการคล้ายกับหอบหืด โดยอาจพบอาการอย่าง ไอ จาม มีน้ำมูก มีไข้🌡️ รับประทานอาหารน้อยลง หายใจหอบ หายใจเสียงวี้ด ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ มีอาการซึมลง มีอาการร้องกวน


วิธีการรับมือไวรัส RSV

วิธีการป้องกัน

แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถป้องกันลูกน้อยได้โดยปฏิบัติตามนี้

✨ทั้งตัวคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการป่วย

✨คุณพ่อคุณแม่ควรล้างมือบ่อยๆ✋ด้วยสบู่🧼และน้ำตามขั้นตอนอย่างสะอาด รวมถึงหากลูกๆโตพอที่จะเข้าใจแล้วก็สามารถสอนให้ลูกล้างมืออย่างถูกต้องได้ค่ะ

✨พยายามหลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด รวมถึงหลีกเลี่ยงการพาลูกไปเล่นในที่ที่มีเด็กเป็นจำนวนมาก

✨หากติดเชื้อไวรัส RSV ควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่🚬 เพราะอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงได้

✨ผู้ติดเชื้อควรปิดปากและจมูกเวลาที่ไอหรือจาม และควรอยู่แต่ในบ้านเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ

โดยหากมีอาการไม่รุนแรงก็สามารถทานยาและพักผ่อนที่บ้านได้ แต่หากเป็นเด็กเล็กก็มักจะมีอาการไข้สูง ภาวะหายใจหอบ ซึม มีภาวะขาดน้ำ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะลูกน้อยมาพาคุณหมอ👨‍⚕️เพื่อวินิจฉัยและรักษาที่โรงพยาบาล🏥นะคะ (ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์)